Powered By Blogger

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 10 กฏหมายทางเทคโนโลยีการศึกษา


กิจกรรมที่ 10 กฏหมายทางเทคโนโลยีการศึกษา

(เรียนวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553 )

เนื้อหาที่ได้รับในห้องเรียน

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษา


- พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2545)

- พรบ.การกระทาผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

หมวด 3 ระบบการศึกษามาตรา 15-21



การศึกษาในระบบ

-การศึกษาขั้นพื้นฐาน

ไม่น้อยกว่า 12 ปี

ระดับและประเภทเป็นไปตามกฎหมายกำหนด

-การศึกษาระดับอุดมศึกษา

ระดับต่ากว่าปริญญา

ระดับปริญญา

-การศึกษาภาคบังคับ
9ปี
ย่างปีที่ 7 ถึงย่างปีที่ 16 ยกเว้นสอบได้ปีที่ 9
การนับอายุ เป็นไปตามกฎกระทรวง



หมวด 4 แนวการจัดการศึกษามาตรา 22-30

-ผู้เรียน

ทุกคนมีความสามารถ

พัฒนาตนเองได้

พัฒนาตนเองได้มีความสาคัญที่สุด




หมวด 5 การบริหารและการจัดการศึกษามาตรา 33-46

-การบริหารและการจัดการศึกษาของรัฐ

-การบริหารและการจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

-การบริหารและการจัดการศึกษาเอกชน


หมวด 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา

มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา

-ประกันคุณภาพภายใน เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหาร รายงานต่อต้นสังกัด เผยแพร่ต่อสาธารณชน

-ประกันคุณภาพภายนอก
โดยสานักงานรับรองและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ) อย่างน้อยหนึ่งครั้งทุก
ห้าปี



หมวด 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา

-หน้าที่ของรัฐ

รัฐต้องจัดให้มีหน่วยงานกลางทาหน้าที่พิจารณาเสนอนโยบาย แผน ส่งเสริม และประสานการวิจัย การ

พัฒนา และการใช้ผู้เรียนมีสิทธิได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีจัดสรรคลื่นความถี่ สื่อ

ตัวนาและโครงสร้างพื้นฐานที่จาเป็นต่อการส่งวิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนา

การผลิตและพัฒนา
เทคโนโลยีการศึกษา

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

-พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537

-พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544

-พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

การละเมิดลิขสิทธิ์

-ทำซ้าหรือดัดแปลง

-เผยแพร่ต่อสาธารณชน

-ให้เช่าต้นฉบับหรือสาเนางานดังกล่าว

ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์

(1)วิจัยหรือศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น

(2)ใช้เพื่อประโยชน์ของเจ้าของสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น

(3)ติชมวิจารณ์หรือแนะนาผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น

(4)เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น

(5)ทาสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในจานวนที่สมควรโดยบุคคลผู้ซึ่งได้ซื้อหรือได้รับโปรแกรมนั้นมาจากบุคคลอื่นโดยถูกต้องเพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในการบารุงรักษาหรือป้องกันการสูญหาย

(6)ทาซ้าดัดแปลงนาออกแสดงหรือทาให้ปรากฏเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอานาจตามกฎหมายหรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว

(7)นาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ

(8)ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในกรณีที่จาเป็นแก่การใช้

(9)จัดทาสาเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บรักษาไว้สาหรับการอ้างอิงหรือค้นคว้าเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน


พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550


“เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสาคัญของการประกอบกิจการและการดารงชีวิตของ

มนุษย์หากมีผู้กระทาด้วยประการใดๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทางานตามคาสั่งที่กาหนดไว้หรือทาให้

การทางานผิดพลาดไปจากคาสั่งที่กาหนดไว้ หรือใช้วิธีการใดๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทาลายข้อมูลของ

บุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบหรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็น

เท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และ

ความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกาหนดมาตรการเพื่อป้องกัน

และปราบปรามการกระทาดังกล่าว”

ข้อแนะนาสาหรับผู้ใช้บริการ

-อย่าบอก password ตนเองแก่บุคคลอื่น

-อย่านา user ID และ password ของบุคคลอื่นมาใช้งานหรือเผยแพร่

-อย่าส่ง (send) หรือส่งต่อ(forward) ภาพ ข้อความ หรือภาพเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมาย

-อย่าให้บุคคลอื่นที่ไม่รู้จักมายืมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์

-การติดตั้งระบบเครือข่ายไร้สายควรจะมีระบบป้องกันมิให้บุคคลอื่นแอบใช้งานโดยมิได้รับอนุญาต
ความรู้ที่ได้รับในห้องเรียน
1 มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้เทคโนโลยีการศึกษาที่ถูกต้อง
2 ได้ทราบถึงกฏเกณฑ์การใช้และบทลงโทษเมื่อผู้ใช้ได้กระทำผิด
3 มีความรู้ในการรู้ทัน การใช้ เทคโนโลยี เพื่อที่จะสามารถป้องกันได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น