Powered By Blogger

วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ 5 การศึกษาดูงาน

บันทึกการศึกษาดูงาน รายวิชาผลิตสื่อสิ่งพิมพ์




วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554



เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ฝ่ายพัฒนาสื่อ และฝ่ายโรงพิมพ์ สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม


ม.เกษตรศาสตร์บางเขน และ กิจการของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ




วิธีการดำเนินการสอน

เดินทางทางออกจากมหาวิทยาลัยบูรพา เวลา 7.30 น.


ไปศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์



ช่วงบ่ายไปศึกษาดูงานที่โรงพิมพ์ ไทยรัฐ



ช่วงเย็นเดินทางกลับ มหาวิมยาลัยบูรพา






สาระที่ได้รับ



ในการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ได้ประโยนช์มากมายทั้งในเรื่องของ ระบบวิธีการพิมพ์ ที่มาของที่พิมพ์ หลักใน


การพิมพ์ และอีกทั้งทราบถึงวิธีการออกแบบ และราคาในงานแต่ละงานในสิ่งพิมพ์นั้นๆอีกด้วย โรงพิมพ์ไทย








รัฐ เป็นสถานที่ศึกษาดูงานอีกที่หนึ่งที่


ทำให้เห็นรูปธรรมมากขึ้น ได้เห็นของจริง วิธีการ


ผลิต กระกวน


การที่ทำให้เกิดหนังสือพิมพ์ขึ้นมาในแต่ละวัน


ทั้งในเรื่องของโฆษณา รายได้ต่างๆของโรงพิมพ์


นับเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุด ที่ได้รับในรายวิชานี้







การนำไปใช้


การนำความรู้ที่ได้จากการไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ สามารถนำไปใช้ในระบบการเรียนการสอนด้วย และยังเป็น



ประสบการณ์ที่หาได้ยาก สามารถนำความรู้ไปบอกต่อ หรือ แพร่กระจายให้ผู้ที่ไม่รู้ได้เข้าใจ มากขึ้น เนื้อหา



สาระในการศึกษาดูงาน ได้ประโยชนืมากมายเกินกว่าจะอธิบายได้หมด แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เราได้เห็น ได้จดจด


จะอยู่ในสมองของเรา และรู้ดีว่าจะนำความจำตรงนั้นไปใช้ประโยชนือย่างไร



เนื้อหาในห้องเรียน


ความเข้าใจเกี่ยวกับกราฟิกในงานสื่อสิ่งพิมพ์


รูปแบบของไฟล์



กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ตไฟล์กราฟิกที่สนับสนุนระบบอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันมี 3 ไฟล์หลัก ๆ คือ



ไฟล์สกุล GIF ( Graphics Interlace File) เป็นไฟล์กราฟิกมาตรฐานที่ทำงานบนอินเทอร์เน็ต มักจะใช้เมื่อ



ต้องการไฟล์ที่มีขนาดเล็กจำนวนสีและความละเอียดของภาพไม่สูงมากนัก ต้องการพื้นแบบโปร่งใส เป็นต้น



ไฟล์สกุล JPG ( Joint Photographer's Experts Group) เป็นอีกไฟล์หนึ่งที่นิยมใช้บน Internet มักใช้



กรณี 1. ภาพที่ต้องการนำเสนอมีความละเอียดสูง และใช้สีจำนวนมาก (สนับสนุนถึง 24 bit color)



2. ต้องการบีบไฟล์ตามความต้องการของผู้ใช้



3.ไฟล์ชนิดนี้มักจะใช้กับภาพถ่ายที่นำมาสแกน และต้องการนำไปใช้บนอินเทอร์เน็ต เพราะให้ความคมชัดและความละเอียดของภาพสูง



ไฟล์สกุล PNG ( Portable Network Graphics)


สนับสนุนสีได้ถึงตามค่า True color (16 bit, 32 bit หรือ 64 bit)


สามารถกำหนดค่าการบีบไฟล์ได้ตามที่ต้องการ มีระบบแสดงผลแบบหยาบและค่อยๆ



ขยายไปสู่ละเอียด ( Interlace) สามารถทำพื้นโปร่งใสได้



ประเภทของไฟล์กราฟฟิคมี 2 ประเภท คือ



1. ไฟล์กราฟฟิค ประเภท Raster baseded2. ไฟล์กราฟฟิคประเภท Vector based
ยวกัน




















Link : ไทยรัฐ สำนักงานส่งเสริมและฝึกอบรม

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ 4 การใช้โปรแกรม Adube Indesign

กิจกรรมที่ 4 การใช้โปรแกรม Adube Indesign










แหล่งการเรียนรู้ออนไลน์ สำหรับศึกษารายละเอียดของโปรแกรม







http://www.phpparty.com/index.php/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-Adobe-Indesign




ความหมายและความสำคัญของโปรแกรม

ประโยชน์ของโปรแกรม AdobeInDesign



1. โปรแกรมสำหรับงานด้านสิ่งพิมพ์ตั้งแต่ 1 หน้าขึ้นไป

2. ใช้ในงานออกแบบเอกสารสิ่งพิมพ์รูปแบบต่าง ๆ

3. ใช้เป็นโปรแกรมจัดหน้าสื่อสิ่งพิมพ์




จุดgด่นของโปรแกรม Indesign

1. สามารถทำงานด้านการจัดหน้ากระดาษได้เป็นอย่างดี ซึ่งคล้ายๆ กับการนำเอาโปรแกรม


PageMaker มารวมกับโปรแกรม Illustrator

2. ระบบการทำงานของโปรแกรม InDesign นั้น ไม่สามารถใช้ Indesign เดี่ยวๆ ได้ ต้องมี

ความรู้พื้นฐานของ Photoshop และ illustrator ด้วย เพราะต้องมีการเตรียมรูปภาพจาก

Photoshop และเตรียมคลิปอาร์ต หรือ Logo ต่างๆ มาจาก illustrator

3. ส่วนข้อความสามารถเตรียมมาจาก โปรแกรมประเภท Word แล้วจึงนำมาประกอบรวมกัน

เป็นหนังสือ หรือแผ่นพับต่างๆ ใน InDesign เสร็จแล้วจึง Export ไฟล์งาน เพื่อส่งโรงพิมพ์

ทางโรงพิมพ์ต่อไป








สิ่งที่ควรรู้ก่อนการใช้โปรแกรม



โหมดสี (Color Mode)


ประเภทของไฟล์ (Format Type)


ขนาดกระดาษ (Size paper)


ฟอนต์ (Font)



ฟอนต์ (Font)ฟอนต์ คือ ชุดแบบตัวพิมพ์ อาจแบ่งฟอนต์ได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

ฟอนต์เข้ารหัส

ฟอนต์ระบบแอสกี (ASCll) อย่างตระกูล DB, DB_AS, DS_AS, JS, JS_AS, PSL, PSL_AD, PSL_AS เป็นต้น














กิจกรรมที่ 3 การออกแบบโปสเตอร์

กิจกรรมที่ 3 การออกแบบโปสเตอร์









โปสเตอร์ (Poster)



โปสเตอร์ (Poster) หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ที่เป็นแผ่นเดียวมีขนาดใหญ่หรือเล็กแล้วแต่ผู้จัดทำ ใช้ติดตาม



สถานที่ต่าง ๆ ในแนวตั้ง เช่น ผนัง ตู้กระจก เสาไฟฟ้า ฯลฯ มีเนื้อหาสาระเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์



สินค้าหรือบริการหรืองานอื่นๆที่ต้องการเรียกร้องความสนใจ ส่วนใหญ่แล้วมักนำเสนอเพียงแนวความคิด



เดียวเป็นหลักใหญ่








ประโยชน์ของโปสเตอร์




ประโยชน์ของโปสเตอร์อาจมีหลายจุดประสงค์ เช่น





1. โดยส่วนมากจะเป็นเครื่องมือ



ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาสินค้า/บริการ งาน



ต่างๆ งานดนตรี ภาพยนตร์


2. เพื่อใช้ในการศึกษานำเสนอสาระใดสารหนึ่ง


3. เพื่อเป็นสื่อการสอนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ


4. นำเสนอผลงานทางวิชาการ






ลักษณะของภาพโปสเตอร์ที่ดี



1. รูปแบบต้องสอดคล้องกับเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้


2. มีลักษณะ เด่นชัด มองเห็นสะดุดตา


3. ข้อความนั้นต้องสั้น กระชับได้ใจความ


4. รูปภาพเร้าความสนใจ ชวนติดตาม


5. มีการสื่อความหมายได้ตามวัตถุประสงค์



ความรู้ที่ได้รับในการเรียนการสอน



ในการออกแบบโปสเตอร์นั้น ได้รับความรู้มากมาย ทั้งในเรื่องของการใช้กระดาษในการผลิตโปสเตอร์


การใช้โปรแกรม โปรโต้ชอป ซึ่งอาจารย์ได้มีกระบวนการสอนที่ละเอียดและครอบคลุมเนื้อหาที่ได้รับในการ


เรียนการสอน ทำให้นักเรียนได้รับความรู้เพิ่มมากขึ้น และเป็นประโยชน์มากในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

กิจกรรมที่ 2 การออกแบบนามบัตร

กิจกรรมที่ 2 การออกแบบนามบัตร






นามบัตร (Name Cards)

สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทลักษณะพิเศษที่ต้องการสื่อสารเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ใช้แทนตัวบุคคล, ร้าน

ค้า, ธุรกิจ ฯลฯ โดยนามบัตรส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กสามารถพกพาได้ ขนาดที่เหมาะสมประมาณ 5.5 x 9 ซ.

ม. แนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้






ส่วนประกอบของนามบัตร





ขั้นตอนการออกแบบนามบัตร



1. ศึกษารายละเอียดและวิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นที่ต้องการสื่อสาร

2. นำข้อมูลที่ต้องการสื่อสารมาออกแบบร่าง


3. เลือกรูปแบบและการวางผัง (Layout) ที่เหมาะสมกับงาน


4. ทำการวางแบบเลย์เอ้าท์ นำส่วนประกอบต่างๆมาลองวางลงในหน้ากระดาษ เพื่อดูว่ามีมากพอหรือไม่


ต้องการเพิ่มเติมส่วนใด หรือต้องตัดอะไรออก ดูความเข้ากันของส่วนประกอบทั้งหมดโดยใช้องค์ประกอบ


ศิลปะช่วยในการจัด


5. กำหนดลักษณะของส่วนประกอบต่างๆของงานที่เหมาะสม




หลักการออกแบบนามบัตร




1. ตัวอักษรต้องตัดกับพื้นหลัง

2. ไม่ควรใส่ข้อความแน่นหรือมีจำนวนมากเกินไป


3. ควรคำนึงถึงหลักทฤษฎีสีและศิลปะในการออกแบบ


4. ตัวอักษรไม่ควรเกิน 2-3 ชนิดใน 1 นามบัตร


5. ควรเว้นระยะขอบประมาณ 0.5 ซ.ม.


6. ภาพให้เหมาะสมกับเนื้อหา



ความรู้ที่ได้รับจากการเรียนการสอน


ได้รับความรู้ในเรื่องการเรียนวิธีการทำนามบัตรมากขึ้น ทั้งในเรื่องของการใช้ฟ้อนน์ในการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์


และระบบการใช้ ความรู้ในสัปดาห์นี้มีประโยชน์มากกับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน